Ester-c Solgar วิตามินซี ที่ไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหารสามารถรับประทานตอนท้องว่างได้ ดูดซึมได้ดี
หลายคนคงเคยได้ยินกันมาแล้วว่า วิตามินซีเป็นวิตามินที่มีประโยชน์และได้รับการยอมรับกันมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่จำความได้ก็มีวิตามินซีแบบเม็ดให้อมเล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะวิตามินซีนั้นมีประโยชน์มากมาย ทั้งช่วยต้านอนุมูลอิสระ สร้างเสริมภูมิคุ้มกัน ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง อย่างไรก็ตาม ถึงแม้วิตามินซีจะมีประโยชน์มากขนาดไหนแต่ก็อาจจะมีโทษของวิตามินซี ได้เช่นเดียวกันประโยชน์ของวิตามินซี
- วิตามินซี ช่วยบรรเทาความรุนแรงและระยะเวลาของการเป็นโรคหวัด หากเริ่มรับประทานวิตามินซีตั้งแต่เริ่มแรกที่เห็นอาการของโรคหวัดจะช่วยให้ อาการป่วยลดความรุนแรงและหายได้เร็วขึ้น มีการศึกษาเมื่อปี 1995 พบว่าหากรับประทานวิตามินซี 1,000 ถึง 6,000 มิลลิกรัมต่อวันตั้งแต่เริ่มมีอาการของโรคหวัดจะช่วยให้หายได้เร็วขึ้น 21% แต่ก็ยังไม่มีรายงานว่า วิตามินซีสามารถช่วยป้องกันโรคหวัดได้
- วิตามินซีช่วยให้แผลหายได้เร็วขึ้นเนื่องจากวิตามินซีช่วยให้ร่างกายซ่อมแซม และรักษาตัวเองโดยการไปเสริมสร้างผนังเซล ทำให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรงและต่อต้านอาการอักเสบจึงทำให้แผลหายได้เร็วขึ้น ในทางกลับกันการขาดวิตามินซีก็ส่งผลให้แผลให้ได้ช้าลงเช่นกัน
- หากรับประทานวิตามินซีเป็นประจำทุกวัน มันจะช่วยให้เหงือกมีสุขภาพแข็งแรง โดยวิตามินซีจะไปช่วยรักษาเซลล์ที่ถูกทำลายและช่วยให้แผลที่เหงือกหายเร็ว
- เพิ่มความต้านทานต่อโรคหัวใจ โดยการไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมระดับคลอเรสเตอรอลในร่างกายโดย เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรับประทานร่วมกับวิตามินอี โดยมันจะไปลดการเกาะตัวของไขมันที่ผนังหลอดเลือด
- เนื่องจากวิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีมันจึงอาจจะช่วยในการป้องกัน และต่อสู้กับโรคมะเร็งได้ มีการศึกษาอย่างมากในเรื่องนี้แต่ก็ยังไม่ข้อสรุปที่ชัดเจนโดยยังมีการถก เถียงกันอย่างมากเกี่ยววิตามินซีกับการป้องกันและต่อสู้กับโรค มะเร็ง
- ช่วยในการป้องกันโรคต้อกระจก เนื่องจากวิตามินซีสามารถช่วยปกป้องเลนส์ตาจากอันตรายต่างๆ เช่น ควันบุหรี่ แสงอุลตร้าไวโอเลต ที่เป็นสิ่งกระตุ้นให้เกิดโรคต้อกระจก มีการศึกษาอันหนึ่งพบว่าผู้หญิงที่รับประทานวิตามินซีมาอย่างน้อย 10 ปี พบว่ามีความเสี่ยงที่จะมีอาการเลนส์ตาขุ่นมัวซึ่งเป็นอาการเริ่มแรกของโรค ต้อกระจก ลดลงถึง 77%
- บรรเทาอาการแพ้ หอบหืด ไซนัส ทั้งนี้เนื่องจากโดยธรรมชาติแล้ววิตามินซีมีคุณสมบัติเป็นสารต่อต้านภูมิแพ้ ต่างๆ เช่น ฝุ่นละออง เกษรดอกไม้ ซึ่งอาการแพ้เหล่านี้ก็เป็นสาเหตุส่วนหนึ่งของโรคไซนัส นอกจากนี้ยังมีการศึกษาพบว่า วิตามินซีช่วยป้องกันและทำให้อาการหอบหืดดีขึ้น
- ช่วยป้องกันอาการไมเกรนเมื่อรับประทานร่วมกับ pantothenic acid โดยวิตามินซีจะไปช่วยร่างกายในการต่อสู้กับความเครียดได้ดีขึ้น
- ช่วยเรื่องความจำ โดยวิตามินซีจะไปช่วยรักษาสภาพของเซลประสาทและจะได้ผลดียิ่งขึ้นหากรับ ประทานร่วมกับอาหารต้านอนุมูลอิสระชนิดอื่นๆ เช่น วิตามินอี แคโรทีน กิงโกะไบโลบ้า และโคเอนไซม์ Q10
- ช่วยให้การดูดซึมธาตุเหล็กดีขึ้น
ขนาดวิตามินซีที่รับประทาน
ในสภาวะปกติปริมาณที่แนะนำให้รับประทานคือ 60 มิลลิกรัมต่อวัน (แต่ในคนที่สูบบุหรี่ 200 มิลลิกรัมต่อวัน) อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารเสริมสุขภาพได้แนะนำว่าเพื่อประสิทธิภาพ ที่ดีต่อสุขภาพควรจะต้องรับประทานอย่างน้อย 100-200 มิลลิกรัมต่อวัน คนที่มีความเครียดควรรับประทานวันละ 500 มิลลิกรัมต่อวัน แต่หากต้องการผลในด้านการป้งกันโรคต่างๆ เช่น มะเร็ง ความชรา ควรจะรับประทาน 250 – 1,000 มิลลิกรัม หากเราได้รับวิตามินซีน้อยกว่าที่ร่างกายควรจะได้รับก็จะเกิดลักปิดลักเปิด ซึ่งจะยิ่งรุนแรงมากขึ้นหากขาดอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานและไม่ต้องกังวัล ว่าจะได้รับมากเกินไป เนื่องจากวิตามินซีสามารถละลายน้ำได้ดี หากร่างกายไม่ได้ใช้ก็จะมีการขับออกมาได้ทางปัสสาวะอีกทั้งยังไม่เคยมี รายงานเกี่ยวกับพิษที่เกิดจากการรับประทานวิตามินซีแม้จะรับประทานในปริมาณ ที่สูงกว่า 6,000 - 18,000 มิลลิกรัม
ข้อปฏิบัติในการรับประทานวิตามินซีเพื่อประโยชน์สูงสุด
- เพื่อให้ได้ผลดีที่สุดควรพิจารณารับประทานร่วมกับสารต้านอนุมูลอิสระตัว อื่นๆ เช่น วิตามินอี ฟลาโวนอย จะไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของวิตามินซี- เพื่อสุขภาพทั่วไปควรรับประทานอย่างน้อย 500 มิลลิกรัมต่อวัน
- สำหรับการรับประทานเพื่อการรักษาหรือการป้องกันควรรับประทาน 1,000 – 6,000 มิลลิกรัม ขึ้นกับโรคแต่ละชนิด
- การรับประทานไม่จำเป็นต้องรับประทานในครั้งเดียวต่อวันสามารถแบ่งรับประทานเป็นหลายๆ ครั้งต่อวัน
- การรับประทานวิตามินซีไม่จำเป็นต้องรับประทานพร้อมอาหารหรือทานอาหารก่อนการรับประทาน
- ยังไม่มีรายงานว่า วิตามินซีชนิดพิเศษพวก Esterifies วิตามินซี จะให้ผลดีกว่าวิตามินซีแบบธรรมดา
โทษของวิตามินซี
- การรับประทานในปริมาณสูงๆ อาจจะมีผลต่อการดูดซึมแร่ธาตุอื่นๆ เช่น Copper Selenium- การรับประทานในปริมาณสูงๆ อาจจะมีผลต่อการผิดพลาดของผลตรวจระดับน้ำตาลในปัสสาวะได้
- วิตามินซีทำให้การดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีจึงอาจจะเกิดภาวะได้รับธาตุเหล็กเกิน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศการประชาสัมพันธ์
วิตามินซีแนะนำจาก iherb
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น